เที่ยวคุนหมิง มหัศจรรย์แห่งป่าหิน

06 กุมภาพันธ์ 2019, 14:34:12

เที่ยวคุนหมิง มหัศจรรย์แห่งป่าหิน


 
เมืองคุนหมิง เป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ครั้งศตวรรษที่ 14 เมื่อราชวงศ์หมิงเข้ามาตั้งถิ่นฐาน กระทั่งถึงศตวรรษที่ 17 เกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจและเกิดกบฏมุสลิมยาวนานต่อเนื่องมาจนถึงศตวรรษที่ 19 จึงสงบ หลังจากนั้นชาวตะวันตกเริ่มเข้ามาติดต่อค้าขายตั้งแต่ยุคนั้น ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คุนหมิงพัฒนาไปหลายด้าน ความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมทำให้คุนหมิงเป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยในประเทศจีนคุนหมิงเป็นเมืองหลวงของมณฑลยูนนาน อันมีเมืองจิ่งหง หรือ เชียงรุ่ง (สิบสองปันนา) เป็นเมืองรอง เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองคุนหมิงจะพบผู้คนเดินขวักไขว่ รถยนต์และรถจักรยานวิ่งปะปนกันบนท้องถนน ความสามารถในการขี่รถจักรยานของชาวคุนหมิงมีสูง โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกสังเกตุว่ารถจะวิ่งหลบหลีกกันได้ ทั้ง ๆ ที่เรามองดูแล้วว่าจะต้องชนกันแน่




 
เมื่อเดินทางมาเยือนเมืองคุนหมิง สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อได้แก่ “ถ้ำจิ่วเซียง” และ “ป่าหิน” มีคำกล่าวของคนคุนหมิงว่า “ถ้ามาคุนหมิงแล้วไม่ได้ไปเที่ยวป่าหิน ก็เหมือนมาไม่ถึงคุนหมิง” เราออกเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข GZ40 ระหว่างทางเป็นทางรถยนต์ขนาบข้างด้วยทางรถไฟและทะเลสาบ ทางรถไฟสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย ปี ค.ศ.1904 จากคุนหมิงไปเวียดนามโดยชาวฝรั่งเศส เพื่อใช้บรรทุกถ่านหิน แร่ดีบุก รวมถึงสินค้าต่าง ๆ รถบัสใช้เวลา 2 ชั่วโมงพาเรามาถึงถ้ำจิ่วเซียง ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความสวยงามของหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำมีน้ำตกไหลผ่านตกแต่งด้วยสีสันของแสงไฟสวยงามยิ่งนัก เมื่อเดินออกมาด้านหลังจะต้องนั่งกระเช้าลอยไฟข้ามภูเขาเพื่อกลับขึ้นไปยังทางเข้า


 

จากนั้นเราจึงเดินทางต่อไปยังป่าหิน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักป่าหิน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ จนได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่า 300 ตารางกิโลเมตร ปรากฏเป็นภูเขาหินรูปร่างต่าง ๆ ผุดขึ้นราวกับเป็นผืนป่า ทว่าเป็นผืนป่าจากภูเขาหิน กล่าวกันว่าป่าหินที่เมืองคุนหมิงเกิดจากการยกตัวของแผ่นดินเมื่อ 270 ล้านปีก่อน ภูเขาหินปูนเหล่านี้ถูกกัดเซาะด้วยน้ำฝนทำให้เกิดเป็นรูปช้าง นกยูง สิงโตป่าหินที่คุนหมิง สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในราว 250 ล้านปีมาแล้ว หมายความว่าบริเวณแห่งนี้ในอดีตเมื่อร้อยล้านปีก็คือท้องทะเลอันกว้างใหญ่ จุดที่เป็นป่าหินคือตะกอนหินปูนที่ก่อตัวอยู่บริเวณพื้นทะเลมาเป็นเวลานาน


 
จนกระทั่งถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ คือเกิดการขยับตัวของเปลือกโลก ส่วนที่เป็นพื้นทะเลค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นทีละน้อย จนที่สุดกลายมาเป็นพื้นโลก หากแต่เป็นพื้นโลกที่มีลักษณะเป็นภูเขาหินตะปุ่มตะป่ำ เนิ่นนานวัน จาก 10 ปี 100 ปี 1 ล้านปี จนถึงราว 200 ล้านปี กระแสลมและสายฝนค่อย ๆ กัดเซาะภูเขาหินปูนจนกลายเป็นแท่งหินที่มีขนาดและรูปร่างต่าง ๆ แลดูมหัศจรรย์ เช่น รูปพญาอินทรี สิงโต รูปดาบและหญิงสาวที่สวยงาม อันเป็นที่มาของชื่อ “ซื่อหลิน” ซึ่งแปลว่า “ป่าหิน”


 
แต่เดิม พื้นที่บริเวณป่าหินอยู่ในเขตปกครองตนเองของชาว “ซาหนี่” ชนกลุ่มน้อยที่เป็นสาขาของชนชาติหยี ป่าหินจึงถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซาหนี่ มีตำนานที่ผูกพันอยู่กับป่าหินคือ ตำนานรักของ “อาซือมะ” กับ “อาเฮย” หนุ่มสาวชาวซาหนี่ที่ทุ่มเทความรักให้แก่กัน แต่ถูกเจ้าของที่ดินขัดขวางในความรักด้วยการลักพาตัวสาวอาซือมะไป ฝ่ายอาเฮยจึงได้ออกตามหาสาวคนรัก ในขณะที่อาซือมะพยายามหนีออกจากที่คุมขัง กระทั่งเสียชีวิตระหว่างการหลบหนีชาวซาหนี่ มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า ร่างของอาซือมะเป็นอมตะเฉกเช่นความรัก นางจึงกลายเป็นก้อนหินที่เฝ้ารอคอยอาเฮย อยู่ที่ป่าหิน ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวที่มาเยือนป่าหิน จะต้องแวะไปชมก้อนหินรูปอาซือมะที่สง่างาม และเป็นธรรมเนียมที่จะต้องขับขานเพลงรักอาซือมะกับอาเฮยให้ผู้มาเยือนได้ฟังอย่างไม่รู้เบื่อ เหมือนเป็นสัญญาณบอกให้วิญญาณของอาเฮยรับรู้ว่า ไม่ว่าจะเนิ่นนานเพียงใด อาซือมะจะยังรอคอยอาเฮยอยู่เสมอ


 
ทุกวันนี้ ป่าหินยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซาหนี่ ในวันที่ไปเยือนป่าหิน ก็ยังเห็นหลุมฝังศพที่มีพวงหรีดวางคารวะอยู่ บอกให้เรารู้ว่าเพิ่งมีพิธีศพเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นาน นอกจากนั้น ทุกปีในช่วงเดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ชาวซาหนี่จะมีงานเฉลิมฉลองที่เรียกว่า “เทศกาลแห่งคบไฟ” ซึ่งจัดขึ้นตามตำนานเก่าแก่ที่ว่า ในสมัยหนึ่ง ชาวซาหนี่ถูกกดขี่ข่มเหงโดยมารร้ายตนหนึ่ง จนทุกข์ยากเดือดร้อน พวกเขาพยายามต่อสู้ก็ถูกมารร้ายฆ่าตายอย่างเลือดเย็น


 
จนกระทั่งมีชาวหนุ่มซาหนี่ที่ชาญฉลาดคนหนึ่ง เอาคบไฟผูกติดกับเขาแพะนับจำนวนไม่ถ้วน แล้วไล่ให้แพะวิ่งขึ้นไปบนภูเขาที่อยู่ของมารร้ายทุกทิศทุกทาง จนในที่สุดไฟได้เผาผลาญมารายกลายเป็นเถ้าถ่าน ชาวซาหนี่จึงจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมอันหาญกล้าในครั้งนั้น โดยมีการร้องรำทำเพลง ดีดพิณสามสายอันเป็นสัญลักษณ์ของหนุ่มซาหนี่ ตกกลางคืนก็จุดคบไฟสว่างไสวกันทั้งหมู่บ้านป่าหินในวันเวลาของฤดูใบไม้ผลิ อาจดูไม่มะเลืองมลาง ด้วยเพราะแสงแดดแรงของฤดูหนาวที่แผ่ปกคลุม ทว่าป่าหินจะเปล่งประกายสดใสดั่งอัญมณีที่แท้จริงในบรรยากาศแดดอ่อน ยามเย็นแสงตกลงมากระทบหินแต่ละก้อน แผ่วเบา อ่อนโยน ป่าหินจึงยิ่งใหญ่สมกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รังสรรค์มันขึ้นมา

 
ที่มา : www.chiangmainews.co.th

 





***********************
บริการจัดทัวร์ 
ทัวร์เชียงตุง ทัวร์เมืองยอง ทัวร์สิบสองปันนา ทัวร์คุนหมิงจีน ทัวร์หลวงพระบาง ทัวร์วังเวียงลาว ทัวร์มัณฑเลย์ ทัวร์พุกาม ทัวร์ทะเลสาบอินเล ทัวร์ตองจี ทัวร์รัฐฉาน

บริษัท เชียงรายมีเดีย แอนด์ ทราเวล จำกัด
เลขที่ใบอนุญาต 21/00833
โทร : 092-891-2277,093-2537733,053-727255
ไลน์ไอดี : @chiangtung
เว๊ปไซค์ : Chiangtungbiz.com
youtube:http://bit.ly/2HDFdMO

บทความที่คุณอาจสนใจ

-นมัสการ ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล

คำให้สัมภาษณ์เจ้านางองค์สุดท้ายของเชียงตุง เจ้าสุคันธา ณ เชียงใหม่ #ตอนที่ 5

ชานมาจากไหน ? น ร่องรอยเกี่ยวกับชื่อ สยาม เราได้ทราบว่าพวกไตรง บางที่ก็ถูกเรียกว่า สยาม (ออก เสียง ชยาม) หรือ ชาม มีคาอธิบายต่อปีกว่าคาว่า ชาม นี้คือคาเดียวกับ ชาน ที่พม่าใช้เรียกคนไตในรัฐชาน แต่ที่เพี้ยนเป็น ชาน ก็เพราะพม่าออกเสียงตัว ม สะกดเป็นแม่กน ข้อนี้เป็นความจริง คาว่า ชาน ในภาษาพม่านั้นอักษรพม่า เขียน ชาน (ใช้ ม สะกด)

พงศาวดารโยนก ตำนานเมืองเหนือ ตำนาน การสร้างพระธาตุลำปางหลวง และศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นต้นตำนานพระธาตุช่อแฮกล่าวว่า เมืองแพร่มีมาตั้งแต่ สมัยพุทธกาล

-เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับคนเมือง ชาติพันธุ์ไทเขิน ไทยอง คนเมือง

บริษัท ไชยนารายณ์ โกลเบิ้ล จำกัด

66 หมู่1 ถนนโชคชัย4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ 10320

Tel ซื้อสินค้า : 063 5599 896

Tel ซื้อสินค้า : 092 891 2277

Tel ท่องเที่ยว :

Line ซื้อสินค้า : @chainarai

Line ท่องเที่ยว : @chainarai

Email : chainarai456@gmail.com

แผนที่

เพจ สิบสองปันนา หลวงพระบาง

เพจ เชียงตุง อยู่ดีกินหวาน